ความเป็นมาของเทศบาลตำบลกุดน้ำใส
ตำบลกุดน้ำใส นับเป็นตำบลลำดับที่ 12 ของอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งแยกออกมาจากตำบลม่วงหวาน เมื่อปี 2522 มีนายทองใบ วอหล้า เป็นกำนันคนแรก ตำบลกุดน้ำใสตั้งอยู่ห่างจากอำเภอน้ำพอง 17.6 กิโลเมตร และห่างจากจังหวัดขอนแก่น 33.4 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 22,211 ไร่ หรือ 48 ตารางกิโลเมตร มีสภาพทางกายภาพของพื้นที่เป็นพื้นที่สูง สลับพื้นที่ราบเหมาะแก่การเพาะปลูก มีลำน้ำพองทอดยาวจากทิศตะวันตกมาถึงทิศตะวันออก เป็นระยะทาง 30 กิโลเมตร ( โดยนับจากเขตติดต่อบ้านคำบอน ตำบลโคกสูงอำเภออุบลรัตน์ บริเวณสะพานข้ามลำน้ำพอง บ้านห้วยโจด ถึงฝายหนองหวาย เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร ลำน้ำพองเก่าบริเวณบ้านฟากพองและบ้านแสงจันทร์ ผ่านฝายหนองหวาย บ้านหนองอ้อน้อยและบ้านกุดกว้าง เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร) เขตติดต่อแบ่งการปกครองออกเป็น 9 หมู่บ้าน ต่อมาปี 2540 จึงเพิ่มเป็น 10 หมู่บ้าน
พ.ศ. 2528 กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ได้ให้มีการจัดตั้งสภาตำบลขึ้นทั่วประเทศ ผู้บริหารตำบลกุดน้ำใสในเวลานั้น โดยการนำของนายทองใบ วอหล้า กำนันคนแรกของตำบลกุดน้ำใส เห็นว่าพื้นที่สาธารณะที่ราษฎรบริจาคให้วัดเหมาะสมที่จะสร้างสำนักงานสภาตำบลกุดน้ำใส มีเนื้อที่ 3 ไร่ 25 ตารางวา เพื่อนำมาทำประโยชน์ในการสร้างสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)และได้จัดตั้งเป็นเทศบาลตำบลกุดน้ำใสในปัจจุบันนี้ เนื่องจากด้านทิศตะวันตกของที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นที่ตั้งของสถานีอนามัยประจำตำบลกุดน้ำใส และในอนาคตจะให้เป็นศูนย์ราชการประจำตำบล จึงได้มีการก่อสร้างอาคารสภาตำบล ลักษณะชั้นเดียว มีเวทีด้านหน้าขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 22 เมตร สูง 6 เมตรโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณการก่อสร้างจากบริษัท ฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด มหาชน จำนวน 50,000 บาท
วันที่ 2 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศยกฐานะสภาตำบลกุดน้ำใส เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลกุดน้ำใส และได้ปรับปรุงที่ทำการสภาตำบลเป็นที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลกุดน้ำใส ในขณะนั้นสภาตำบลประกอบด้วยสมาชิกโดยตำแหน่ง ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน ซึ่งนายทองใบ วอหล้าเป็นกำนันตำบลกุดน้ำใสและเป็นประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลกุดน้ำใสคนแรก
ในปี พ.ศ. 2539 นายทองใบ วอหล้า ได้เกษียณอายุราชการ และได้มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านและ กำนันตำบลกุดน้ำใสขึ้นใหม่
ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2539 นายวิรัตน์ เย็นสบาย ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านกุดน้ำใส
ในวันที่ 31 มีนาคม 2539 ได้รับเลือกเป็นกำนันตำบลกุดน้ำใส และเป็นประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลกุดน้ำใสโดยตำแหน่ง
เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2542 นายวิรัตน์ เย็นสบาย ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น พร้อมได้รับเลือกเป็นประธานกรรมการบริหารขององค์การบริหารส่วนตำบลกุดน้ำใส พ.ศ. 2542 - 2546
การประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2544 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2544 ได้อนุมัติเงินจ่ายขาดสะสมข้อบังคับงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) ประจำปี 2544 ก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ 2 ชั้น ขนาดกว้าง 15.5 เมตร ยาว 30 เมตร สูง 10.1 เมตร จำนวนเงินค่าก่อสร้าง 4,250,000 บาท ได้ดำเนินการประกาศประกวดราคา เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2544 ผู้เสนอราคาได้คือ หจก.ไทยอารีย์น้ำพองก่อสร้าง ในวงเงิน 3,826,000 บาท ทำสัญญาก่อสร้าง ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2544 สิ้นสุดสัญญาในวันที่ 19 กรกฎาคม 2545 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2545 ได้ดำเนินการยกเสาเอก-เสาโทและเริ่มลงมือก่อสร้างและได้ส่งมอบงานเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2545 ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นดังนี้
ก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ เป็นเงิน 3,825,000 บาท
ถมดินบริเวณ เป็นเงิน 132,000 บาท
ก่อสร้างถนนคอนกรีตภายในบริเวณ เป็นเงิน 718,000 บาท
ก่อสร้างลานคอนกรีต เป็นเงิน 600,000 บาท
เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2545 กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้เปลี่ยนแปลงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลฯ และกรรมการบริหารเป็น รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลฯ
เดือนกันยายน พ.ศ. 2546 นายวิรัตน์ เย็นสบาย ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นและ เป็นนายกองค์การบริหารตำบลกุดน้ำใส พ.ศ. 2546 – 2550
ต่อมาองค์การบริหารส่วนตำบลกุดน้ำใส ได้รับการจัดตั้งเป็นเทศบาลตำบลกุดน้ำใส เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2550 ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2550 แบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 2 เขต มีสมาชิกสภาเทศบาลจำนวน 12 คน โดยมีการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อ วันที่ 9 ธันวาคม 2550 นายวิรัตน์ เย็นสบาย ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรี
ในวันที่ 22 มกราคม 2555 นายวิรัตน์ เย็นสบาย ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลกุดน้ำใส
วันที่ 21 มกราคม 2559 ครบวาระการดำรงตำแหน่ง( หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2557 ข้อ 2 และข้อ 5 ให้สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่จะพ้นวาระตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะได้มีประกาศให้มีการเลือกตั้ง ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น)